ละครย้อนยุค: เรื่องต่อปากถึงความอาถรรพ์ของละครเรื่อง พิษสวาท

เรื่องต่อปากถึงความอาถรรพณ์ของละครเรื่อง พิษสวาท

ตำรา อาถรรพ์ในละครเรื่อง พิษสวาท นั้นมีมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๔ เป็นปฐมฤกษ์ที่นำเรื่อง พิษสวาทลงจอวิทยุโทรทัศน์ขาวดำ โดยได้นางเอกในเรื่อง คือ เสาวนีย์ สกุลทอง ที่เพียงเธอแสดงบทไปได้แค่ตอนเดียว จากที่กำหนดไว้ 3 ตอนจบ ได้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นทางรถยนต์ยนต์ทำให้เธอได้สิ้นสุดทันที เทิ่งและนักแสดงในกอง ต่างก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เทิ่งต้องรีบหานางเอกในเรื่องมาแทน แต่ก็หาได้ยากมากเพราะไม่มีใครที่จะกร้าวมารับแสดงเล่นบทนางเอกเรื่องนี้ ทำให้เทิ่งปลงใจที่จะปิดละครเรื่องนี้ไว้แค่ตอนที่ 2 ทันที

ต่อมาอีก 3 ปี ภายหลัง ละครเรื่องพิษสวาทก็ถูกนำมาเป็นละครวิทยุและภาพยนตร์ ครั้งในนี้ก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นอีกครั้ง เพราะความอาถรรพ์ของเรื่องพิษสวาทหรือป่าวที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น คือก่อนที่คณะละครวิทยุอัชชาวดี ของจีรภา ปัญจศิลป์ ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆของไพโรจน์ สังวริบุตร นั้น ในระหว่างที่คนฟังวิทยุกำลังสนุกกับการแสดงอยู่นั้น ก็ได้ยินข่าวว่ามีเหตุขัดข้องภายในห้องอัดเสียงของ จาตุรงค์ ก็ได้เกิดไฟไหม้โดยที่ไม่รู้ตัวการของการเกิดระเบิดไฟในครั้งนี้ ทำให้นักแสดงในห้องอัดนั้นขวัญสะดุ้งกันทุกคน ผู้จัดจึงตัดสินใจที่จะถึงที่สุดเรื่องนี้เร็วขึ้นกว่าที่จะถึงถือทันที

ครั่น 7 ปีต่อมา ตุ้ย (วรยุทร พิชัยศรทัต) ได้นำเรื่องพิษสวาทกลับมาทำเอี่ยมอ่องอีกครั้งโดยครั้งนี้ โดยครั้งนี้ทุกการบันทึกเสียงนั้นต้องมีการเซ่นสรวง โดยแต่เทปที่มีอุบลหรือสโรชินี จึงทำให้การอัดเทปนั้นผ่านไปได้ด้วยดี แต่ก็มีเหตุการณ์น่าอัศจรรย์บางอย่างที่น่าขนลุกเมื่อ รัชนู บูชาดวง ที่ได้รับบทเป็นอุบล ในเรื่อง เธอได้เล่าเรื่องนึกหวังกึกกือของสาวนานนมให้คนสนิทของเธอฟังอยู่เสมอๆ ว่ามีสาวโบราณมาขอให้เธอเล่นเป็นตัวเธอให้ดีที่สุด และยังเชยชมและฝันถึงหญิงสาวโบราณนั้นอยู่โดยปรกติ รัชนูจึงต้องคอยทำบุญให้หญิงปริศนานั้นจนกว่าจะปิดกล้องกันเลยทีเดียว และหลังจากปิดกองแล้วหญิงสาวโบราณคนนั้นก็สูญไป

เรื่องเล่าตัดผ่านไปเจ็ดชั่วโคตร จวนจะ 10 ปีผ่านไป บริษัทกันตนา ที่ได้นำเรื่องนี้มาสร้างใหม่ ซึ่ง มี ลีลาวดี วัชโรบล ที่ได้มารับบทบาทเป็นอุบล แต่ในทางกลับกันได้เกิดเหตุการณ์กับ วรรณิศา ศรีวิเชีนร ที่ได้รับบทเป็นทิพย์ เพื่อนสนิทของอุบล ที่ปัจจุบันได้กลับชาติมาเกิดเป็นทิพอาภานั่นเอง ซึ่งหลังจากเลล่นเรื่องนี้ไปได้แค่กึ่งหนึ่งเรื่องนั้น เธอก็เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จนสาหัสสากรรจ์ ทำให้เธอต้องขอไถ่ตัวออกจากการรับบาทในเรื่องนี้เลยทีเดียว ทางกันตนาจึงให้ ดี้ ปัทมา ปานทอง มาเล่นต่อในช่วงครึ่งหลังของเรื่องแทน

ไปทางด้านผู้ที่เคยอ่านนวนิยายของ ทมยันตรี ในเรื่องนี้กันบ้าง ก็มักจะได้เห็นการเล่าเรื่องของ อุบล ในคำนำของนวนิยายหลายๆ เรื่องที่ออกแนวพระศาสนาและจิตวิญญาณ ที่ผู้เขียนเล่าว่า วิญญาณที่เฝ้าสมบัติของปัถพีนั้นมีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง และยังคงทำหน้าที่อยู่จริงๆ เพราะคนเรียบเรียงนิยายแนวนี้เจอกับตัวเองมาแล้ว เวลาที่เขียนนิยายฉบับ ทมยันตรี นั้น มักจะมีเกิดสิ่งๆพันลึกพันลือเกิดขึ้น อย่างผู้หญิงที่ใส่ชุดไทยเดินแว้บไปแว้บมาในบ้าน ขณะเขียน